ร่วมเดินวิ่งการกุศลวันหัวใจโลก : สมาพันธหัวใจโลก (World Heart Federation) ได้กำหนดให้วันที่ 29 กันยายนของทุกปี เป็นวันหัวใจโลก เพื่อจะสื่อสารสร้างกระแสให้ประชากรตื่นตัวต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด" เป็นอันดับ 3 รองจากมะเร็งและอุบัติเหตุจราจร ขณะที่อัตราการตายพุ่งถึงร้อยละ 17 ดังนั้นจึงต้องมีการรณรงค์ให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น 
มูลนิธิหัวใจดีจังหวัดขอนก่น ร่วมกับเทศบาลนครขอนแก่น โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กาชาดจังหวัดขอนแก่น สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น หอการค้าจังหวัดขอนแก่น ธนาคารกสิกรไทย โรงแรมเซนทาราฯ ศูนย์การแพทย์บูรณาการแอ็บโซลูทเฮลธ์ ขอนแก่น ชมรมพัฒนาคุณภาพชีวิตเทศบาลนครขอนแก่น ชมรมผู้เกษียณอายุเทศบาลนครขอนแก่น รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ-เอกชนต่างๆ ได้จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันหัวใจโลก ภายใต้ชื่อการแข่งขันเดิน – วิ่ง เพื่อสุขภาพ หัวใจดี๊ดี มินิมาราธอน ครั้งที่ 1 (World Heart Day) ณ จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2558 เวลา 05.30 น. ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นประธานเปิดกิจกรรม สำหรับกิจกรรมดังกล่าว มีระยะทาง 7 กิโลเมตร ผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 600 คน เริ่มปล่อยตัวบริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ผ่านสถานีวิทยุรักษาดินแดนจังหวัดขอนแก่น บึงทุ่งสร้าง และเข้าสู่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นการมอบเหรียญรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศในการแข่งขัน นอกจากนี้แล้วยังมีการให้ความรู้และการตรวจสุขภาพแบบองค์รวม จากศูนย์การแพทย์บูรณาการแอ็บโซลูทเฮลธ์ ขอนแก่น
นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ได้กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนหันมาสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงพร้อมกับปรับเปลี่ยนค่านิยมความเคยชิน หันมาดูแลสุขภาพง่ายๆเริ่มจากที่บ้าน และขอขอบคุณพี่น้องชาวรักสุขภาพทุกท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการรวมหัวใจหลายๆดวงในการเสริมสร้างหัวใจและสุขภาพที่แข็งแรงต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 15.00 น. ณ ขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น นายจุลนพ ทองโสภิต รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ได้รับมอบหมายจากท่านนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น (นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์) ร่วมงานและกล่าวสนับสนุนการจัดงาน FOOD and HOTELEX 2015 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 กันยายน 2558 นี้ โดยเป็นการแสดงสินค้าและบริการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อรองรับตลาดประชาคมอาเซียน และพร้อมแสดงศักยภาพของธุรกิจอาหารและบริการของประเทศไทยก้าวสู่ระดับสากล 

วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 09.30 น. ณ ภัตตาคารบัวหลวง บึงแก่นนคร นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นประธานในการเปิดการประชุมผู้บริหารสถานศึกษา ครั้งที่ 6/2558 เพื่อรับทราบและพิจารณาเรื่องการให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นเจ้าภาพ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-30 ตุลาคม 2558 ที่จะถึงนี้ พร้อมทั้งให้ข้อคิดและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติราชการของ ดร.สุภัฐวิทย์ ธารชัย ปลัดเทศบาลฯ และ ดร.สุพัฒน์ เหล่าชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดกลาง ซึ่งถึงวาระ เกษียณราชการในครั้งนี้ด้วย

ประวัติแอดมิน

 

ชื่อนางสาวรัฐวลี   สนอุป  ชื่อเล่นน้ำพลอย

ประวัติส่วนตัว

เกิดวันศุกร์ ที่ 10 ธันวาคม 2536    อายุ 21 ปี    บ้านเลขที่ 306/50 หมู่ 17   ต.ในเมือง   อ.เมือง   จ.ขอนแก่น รหัสไปรษณีย์ 40000   ชอบสีชมพู ขาว เป็นชีวิคจิตใจ

ประวัติการศึกษา

พ.ศ.2550 สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา

พ.ศ.2553 สำเร็จการศึกษาระดับมัทธยมศึกษาปีที่ 3 ม.3 ที่โรงเรียนหนองคายวิทยาคาร

พ.ศ.2556 สำเร็จการศึกษาระดับมัทธยมศึกษาที่ปีที่6  .. โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย 2

พ.ศ.2558 กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ช่วงชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาการจัดการ

สาขานิเทศศาสตร์ เอกวิทยุและโทรทัศน์

สถานที่ติดต่อ

Email : Rattwee2536@gmail.com

Ig:  ployzika

FB: อยากเป็นแมว แมวผี

Tel : 0930964717

ประวัติจังหวัดขอนเเก่น

การตั้งถิ่นฐาน

แม้ขอนแก่นจะเป็นบ้านเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่เมื่อราวร้อยกว่าปีมานี้ก็ตาม แต่ในอดีตกาลยุคก่อนประวัติศาสตร์ ในบริเวณเขตจังหวัดขอนแก่นเคยมีชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ได้เข้ามาอาศัยก่อนแล้ว เช่น การค้นพบแหล่งโบราณคดีที่บ้านโนนนกทา อำเภอภูเวียง พบว่ามีเครี่องปั้นดินเผาที่มีอายุยาวนาน ต่อมาชุมชนเหล่านี้กลายเป็นเมืองขึ้นในสมัยทวารวดี ก่อนที่ขอมจะมามีอำนาจในดินแดนส่วนนี้ เช่น พบแหล่งโบราณคดีที่วัดศรีเมืองแอม อำเภอเขาสวนกวาง ซึ่งปรากฏจารึกศรีเมืองแอมที่ขอมได้เข้ามามีอำนาจในดินแดนส่วนนี้หรือที่ปรากฏเป็นปรางค์กู่ต่าง ๆ ในเขตจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น

ประวัติศาสตร์ พื้นที่ส่วนนี้ยังเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ กระจัดกระจายกันตามพื้นที่ราบสูง ในปี พ.ศ. 2322 ขณะนั้นเมืองเวียงจันทน์ได้เกิดเหตุพิพาทกับกลุ่มของเจ้าพระวอจนถึงกับยกทัพไปตีค่ายของเจ้าพระวอแตกที่บ้านดอนมดแดง (อุบลราชธานีปัจจุบัน) และจับเจ้าพระวอประหารชีวิต สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงถือว่าฝ่ายเจ้าพระวอเป็นข้าขอบขัณฑสีมาของไทยจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกับเจ้าพระยาสุรสีห์ยกทัพขึ้นไปตีเวียงจันทน์ จากนั้นจึงได้ยกทัพกลับมายังกรุงเทพมหานคร พร้อมกับได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระพุทธปฏิมากร และพระบางกลับมาถวายแต่สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีด้วย

เจ้าแก้วบุฮม (แก้วบรม) กับพระยาเมืองแพน (หรือเพี้ยเมืองแพน) สองพี่น้อง ซึ่งเป็นโอรสของเจ้าแสนปัจจุทุม (ท้าวแสนแก้วบุฮม) ได้ยกกองทัพจากบ้านเพี้ยปู่ เขตแขวงเมืองทุละคม (ธุระคม) ซึ่งขึ้นกับเมืองเวียงจันทน์ในทุกวันนี้ ข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งถิ่นฐานที่อยู่บ้านโพธิ์ตาก (บ้านโพธิ์ตาก ตำบลบ้านกง อำเภอเมืองขอนแก่น) และบ้านยางเดี่ยว บ้านโพธิ์ศรี (บ้านโพธิ์ศรี ตำบลบ้านโนน อำเภอกระนวน) บ้านโพธิ์ชัย (บ้านโพธิ์ชัย อำเภอมัญจาคีรี) เมืองมัญจาคีรีหรืออำเภอมัญจาคีรี ปรากฏอยู่ในทำเนียบมณฑลอุดร กล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเมืองขึ้นชื่อเมืองมัญจาคีรี โดยมีจางวางเอกพระยาพฤติคุณธนเชษ (สน สนธิสัมพันธ์) เป็นเจ้าเมืองคนแรกเมื่อ พ.ศ. 2433-2439 เจ้าเมืองคนที่ 2 คือ พระเกษตรวัฒนา (โส สนธิสัมพันธ์) เมื่อ พ.ศ. 2439-2443 และมีปรากฏประวัติเมืองมัญจาคีรีในหนังสือประวัติจังหวัดในประเทศไทย ในห้องสมุดของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) บ้านสร้าง บ้านชีโหล่น (อยู่ในเขตเมืองสุวรรณภูมิ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ดปัจจุบัน)

ในปัจจุบัน บางบ้านก็อยู่ในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น บางบ้านก็อยู่ในเขตอำเภอน้ำพอง บางบ้านก็อยู่ในเขตอำเภออาจสามารถ (จังหวัดร้อยเอ็ด) บางบ้านก็อยู่ในเขตจังหวัดยโสธร บางบ้านก็อยู่ที่อำเภอมัญจาคีรี และบางบ้านก็อยู่ที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว (จังหวัดยโสธร) เป็นต้น ทั้งนี้เป็นเพราะได้มีการเปลี่ยนแปลงเขตเมืองในสมัยหลัง ๆ ต่อมานั่นเอง

เจ้าแก้วบุฮมได้อพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านโพธิ์ชัย พระยาเมืองแพนอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ในบ้านชีโหล่น คุมไพร่พลคนละ 500 คน ขึ้นกับเมืองท่งหรือเมืองสุวรรณภูมิ ครั้นต่อมาอีกราว 9 ปี ในปี พ.ศ. 2331 เพี้ยเมืองแพนก็ได้พาราษฎรและไพร่พลประมาณ 330 คน ขอแยกตัวออกจากเมืองสุวรรณภูมิไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ฝั่งบึงบอน ยกขึ้นเป็นเมืองที่บ้านดอนพยอมเมืองเพี้ย (ปัจจุบันคือ บ้านเมืองเพี้ย ตำบลเมืองเพี้ย อำเภอบ้านไผ่)

บึงบอนหรือดอนพยอมในปัจจุบันได้ตื้นเขินเป็นที่นาไปหมดแล้ว แต่ก็ยังปรากฏเป็นรูปของบึงซึ่งมีต้นบอนขึ้นอยู่มากมาย ต่อมาก็ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่น ดังปรากฏข้อความในพงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสานของหม่อมอมรวงศ์วิจิตรว่า

เอกสารพงศาวดารอีสานฉบับพระยาขัติยวงศา (เหลา ณ ร้อยเอ็ด) ได้กล่าวถึงการตั้งเมืองขอนแก่นว่า

“...ได้ทราบข่าวว่าเมืองแพน บ้านชีโล่น แขวงเมืองสุวรรณภูมิ พาราษฎร ไพร่พลประมาณ 330 คน แยกจากเมืองสุวรรณภูมิไปขอตั้งฝั่งบึงบอนเป็นเมือง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เมืองแพนเป็นพระนครศรีบริรักษ์ ผู้ว่าราชการเมืองขอนแก่น...” ขอนแก่นจึงได้ที่มาว่าเป็นเมืองคู่กับมหาสารคามนั้นเอง